วันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทักษะพื้นฐานของบาสเกตบอล ( Basic Elements of Basketball )

ทักษะพื้นฐานของบาสเกตบอล ( Basic Elements of Basketball )

กีฬาบาสเกตบอลมีทักษะพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับลูกบอล ได้แก่
                1)     การเลี้ยงบอล
                2)     การส่งบอล
                3)     การยิงประตู
การเลี้ยงบอล หมายถึง การเคลื่อนที่ของผู้เล่นที่ครอบครองบอลเพื่อพาลูกบอลให้หลุดจากการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามหรือเพื่อหาตำแหน่งส่งบอลหรือยิงประตู
การส่งบอล หมายถึง การทำให้ลูกบอลเคลื่อนที่จากผู้เล่นคนหนึ่งไปยังผู้เล่นอีกคนหนึ่ง เป็นการนำลูกบอลเคลื่อนที่ได้เร็วที่สุด เปิดโอกาสให้ผู้เล่นร่วมทีมสามารถนำลูกบอลขึ้นทำประตุได้อย่างง่าย ๆ
การยิงประตู หมายถึง ขั้นตอนสุดท้ายของฝ่ายรุกในการเคลื่อนที่พาลูกบอลเพื่อทำปรฟะตูฝ่ายตรงข้าม ในกีฬาบาสเกตบอลการพาบอลขึ้นไปยิงประตูใช้เวลาประมาณ 10-24 วินาที และกว่าครึ่งเป็นความพยายามทำประตูที่ประสบผลสำเร็จ จากการยิงประตูกันเป็นจำนวนมากทำให้บาสเกตบอลยิ่งน่าสนใจ ดึงดูดฝู้ชม และมีส่วนช่วยให้การแข่งขันสนุกตื่นเต้น
                ทักษะพื้นฐานของกีฬาบาสเกตบอลมีรูปแบบการฝึกมากมาย ซึ่งในช่วงการแข่งขันผู้เล่นต้องนำทักษะที่ชำนาญเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อทีม

การเลี้ยงบอล ( Dribbling )
                ขณะเลี้ยงบอลผู้เล่นควรนำลูกบอลไปไว้ด้านข้างลำตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการป้องกันหรือการเข้าแย่งของฝ่ายตรงข้าม
                วิธีเลี้ยงบอล ควรใช้นิ้วกดลงที่ลูกบอลอาจช่วยส่งแรง และควรฝึกหัดการใช้มือทั้งสองข้างช่วยในการเลี้ยงบอล สิ่งสำคัญของการเลี้ยงบอล คือ ไม่ควรมองลูกบอลที่ตนเองกำลังเลี้ยงอยู่ ให้มองผู้เล่นหรือทิศทางในสนาม




การเลี้ยงบอลเปลี่ยนตำแหน่ง ( The Change-of-Pace Dribble )
                การเลี้ยงบอลชนิดนี้มีความสำคัญอีกประการหนึ่ง เนื่องจากทำให้ผู้เล่นฝ่ายป้องกันไม่สามารถคาดเดาได้ว่าผู้เลี้ยงบอลนั้นจะเคลื่อนที่เร็ว, ช้า , หยุดอยู่กับที่ , ส่งบอล หรือยิงประตู

การเลี้ยงบอลต่ำ ( The low or Control Dribbling )
 เป็นวิธีเลี้ยงบอลของผู้เล่นเมื่อถูกป้องกันอย่างใกล้ชิด ผู้เลี้ยงบอลต้องย่อตัวฝ่ามืออยุ่บนลูกบอล ในการเลี้ยงบอลให้ลูกบอลกระทบพื้นในระดับต่ำ และควรควบคุมลูกบอลอยู่ข้างลำตัวเพื่อป้องกันการแย่งหรือปัดบอลจากฝ่ายตรงข้าม

การเลี้ยงบอลสูง ( The High or Speed Dribble )
เมื่อผู้เล่นเลี้ยงบอลขณะไม่มีผู้เล่นฝ่ายตรงป้องกันและต้องใช้ความเร็ว สามารถใช้วิธีการเลี้ยงลักษณะนี้ โดยการผลักลูกบอลไปข้างหน้าให้ลูกบอลกระทบพื้นกระดอนระดับเอว มือไม่จำเป็นต้องอยู่ด้านบนของลูกบอล สามารถอยู่ด้านหลังของลูกเพื่อผลักไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว   

การเลี้ยงบอลสลับซ้าย-ขวา (The Crossover Dribbling )
การเลี้ยงบอลต้องใช้เพียงมือเดียวในการเลี้ยงบอล หากฝ่ายตรงข้ามป้องกันอย่างใกล้ชิดและผู้เลี้ยงบอลเลี้ยงข้างหน้าฝ่ายตรงข้าม อาจถูกแย่งหรือปัดได้ง่าย ดั้งนั้นควรเลี้ยงบอลสลับซ้าย-ขวา เพื่อหลีกเลี่ยงและหลบหลีกการแย่งหรือการปัดจากฝ่ายตรงข้าม แต่หากฝึกทักษะชนิดนี้ไม่ชำนาญอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามแย่งหรือปัดบอลได้

การเลี้ยงบอลไขว้หลัง ( The Behind-the-Back Dribble )
เป็นวิธีการเลี้ยงบอลเพื่อต้องการหลอกล่อฝ่ายตรงข้ามให้เสียจังหวะเพื่อชิงพื้นที่หรือตำแหน่งในการเปลี่ยนทิศทาง เป็นการใช้มือออกแรงกดและผลักลูกบอลจากด้านหลังไปด้านหน้าอีกข้างหนึ่ง เป็นลักษณะของการไขว้สลับด้านหลัง 


การเลี้ยงบอลลอดใต้ขา ( The Between-the-Legs-Dribble )
เป็นวิธีการเลี้ยงบอลที่ใช้มือกดลูกบอลให้ลอดใต้ขาใช้ขณะเมื่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามป้องกันอย่างใกล้ชิด เพื่อหลบหลีกและเปลี่ยนทิศทางของการเคลื่อนที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียจังหวะและเสียพื้นที่ตำแหน่ง

การหมุนตัวเลี้ยงบอล (The Revcrse Dribble )
เป็นวิธีการเลี้ยงบอลเพื่อหลบหลีกฝ่ายตรงข้ามและเปลี่ยนทิศทาง ใช้ลำตัวบังลูกบอลยากต่อการแย่งหรือปัดลูกบอลยากต่อการแย่งหรือปัดลูกบอล ทำเมื่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเข้าประชิดตัวให้ใช้มอผลักลูกบอลไปยังตำแหน่งอีกด้นหนึ่งพร้อมกับหมุนตัวไปด้านเดียวกันนั้น (ซ้ายหรือยวาก็ได้ ) 

การส่งบอล ( Passing )

การส่งบอลสองมือระดับอก ( The Two-Handed Chest Pass )
เป็นการส่งบอลที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นพื้นฐานในการส่งบอล ใช้เมื่อไม่มีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามโดยส่งบอลไป-มาระหว่างผู้เล่นของทีม วิธีการฝึก ให้ถือลูกบอลสองมือระดับอกดึงบอลเข้าหาลำตัว,เก็บศอก,กางนิ้วมือออก ขณะปล่อยลูกบอลแขนและมือเหยียดออกและสลัดข้อมือเพื่อช่วยส่งแรง

การส่งบอลสองมือกระดอนพื้น ( The Two-Handed Bounce Pas )
เป็นวิธีการส่งบอลขั้นพื้นฐาน ใช้เมื่อส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมที่ถูกป้องกันทางด้านหลัง หรือผู้เล่นฝ่ายป้องกันพยายามแย่งบอลจากด้านหน้า หรือขณะที่การส่งบอลสองมือระดับไม่สามารถใช้ได้ 

การส่งบอลสองมือเหนือศีรษะ ( The Two-Handed Overhead Pass )
เป็นการส่งบอลให้กับผู้เล่นตำแหน่งเสาหลัก (Post ) ล่างและบน บางครั้งใช้กับการเล่นลูกเร็ว ( Fast Break ) หรือการส่งบอลเข้าเล่น

การส่งบอลมือเดียวเหนือไหล่ ( The One-Hand (Baseball) Pass )
เป็นการส่งบอลที่มีระยะไกลประมาณครึ่งสนามซึ่งปกติการส่งสองมือไม่สามารถส่งได้ แต่ไม่เหมาะกับการส่งบอลที่มีระยะไกลมากเกินไป ใช้ประโยชน์สำหรับการส่งบอลเร็ว ( Fast Break ) 

การส่งบอลมือเดียวด้วยการผลัก ( The One-Hand (Push) Passv )
เป็นการผลักลูกบอลอย่างรวดเร็ว ใช้สำหรับระยะสั้น ๆ วิธีฝึก ให้ลูกบอลอยู่บริเวณระดับหู งอศอกเพื่อให้เกิดแรงส่ง เป็นการส่งบอลแนวตรงและสามารถหลอกฝ่ายตรงข้ามได้

การส่งมือเดียวย้อนหลัง ( The Behind-the Back Pass )
เป็นการส่งลูกบอลที่ใช้ความสามารถเฉพาะตัว ปัจจุบันนิยมใช้กันมาก และสามารถหลอกคู่ต่อสู้ได้ 

การยิงประตู ( Shooting )

การยืนยิงประตู ( The Set Shot )
โดยทั่วไปในการแข่งขันไม่นิยมใช้ลักษณะการยิงประตูชนิดนี้ระหว่างนาฬิกาเดินเนื่องจากง่ายต่อการสกัดกั้นส่วนมากใช้ในการโยนโทษ

การก้าวกระโดดขึ้นยิงประตู ( The Lay-up Shot )
ผู้เล่นควรฝึกการยิงประตูลักษณะนี้เป็นอันดับแรก การยิงประตูลักษณะนี้เป็ฯการพาลูกบอลเคลื่อนที่ซึ่งใช้แรงส่งจากจังหวะการก้าวและกระโดดลอยตัวยกมือ งอเข่า และปล่อยลูกบอลกระทบกระดานหลัง

การก้าวกระโดดขึ้นหงายมือยิงประตู ( The Underhand Shot )
การยิงประตูลักษณะนี้คล้ายกับการก้าวกระโดดยิงประตูต่างกันที่จังหวะสุดท้ายของการปล่อยลูกบอลต้องหงายมือและแขนทำให้ลูกบอลอยู่ด้านบนมือ แล้วจึงใช้ข้อมือช่วยส่งแรงกระทบกระดานหลัง
การกระโดดยิงประตู ( The Jump Shot )
เป็นลักษณะการยิงประตูที่มักพบมากระหว่างการแข่งขัน เนื่องจากยากต่อการป้องกัน โดยเฉพาะหากผู้เล่นยิงประตูมีความสูง 

การฮุ้กบอล ( The Hook Shot )
นิยมใช้มากกับผู้เล่นตำแหน่งเสาหลักล่าง ( Low-Post ) การยิงประตูลักษณะนี้มีความแม่นยำสูงและยากต่อการป้องกัน เนื่องจากแขนผู้เล่นยิงประตูห่างจากผู้เล่นฝ่ายป้องกัน
วิธีการปฏิบัติเริ่มเมื่อผู้เล่นยิงประตูหันหลังให้ห่วงประตู การฮุ้กต้องมีการกระโดดและการทรงตัวที่ดี ผู้เล่นควรฝึกหัดการใช้ทั้งมือซ้ายและขวา หากใช้มือขวาให้ยกเข่าขวา หากใช้มือซ้ายให้ยกเข่าซ้าย ปล่อยบอลให้ใช้ข้อมือตวัดลูกบอลข้ามศีรษะ

การยัดห่วงประตู ( Dunking )
การยิงประตูลักษณะนี้เป็นความสามารถเฉพาะตัวพิเศษของผู้เล่นที่มีความสูงหรือกระโดดสูง และเนื่องจากไม่มีข่วงของลูกบอลลอยในอากาศทำให้ยากต่อการป้องกัน สามารถใช้ได้ทั้งมือเดียวหรือสองมือ ทั้งด้านหน้าหรือด้านหลังของผู้เล่นยิงประตู เป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อทีมและทำลายขวัญของฝ่ายตรงข้ามได้ 

การก้าวกระโดดหมุนตัวยิงประตู ( The Reverse Lay-up Shot )
การยิงประตูลักษณะนี้เป็นการใช้ห่วงประตูและกระดานหลังเป็นแนวป้องกันจากผู้เล่นฝ่ายป้อกันจากด้านหลังใช้ได้ดีเมื่อผู้เล่นพาบอลตามแนวเส้นหลัง หรือรับลูกบอลภายในเขตกำหนด 3 วินาที และหันหลังให้กับห่วงประตู

การปัดบอลเข้าห่วงประตู ( Tapping or Tip-in )
การปัดบอลเพื่อเข้าห่วงประตูตามกติกาถือเป็นการยิงประตูลักษณะหนึ่ง เป็นการใช้นิ้วมือรองใต้ลูกบอลดีดลูกบอลเข้าห่วงประตู การยิงประตูลักษณะนี้ต้องอาศัยช่วงจังหวะเวลาและจังหวะของการกระโดดลอยตัวที่ดี เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการดีดลูกบอล 


การสกัดกั้นเข้าแย่งลูกบอล (Blocking out and Rebounding )
                การเข้าแย่งลูกบอลเป็นส่วนสำคัญประการหนึ่งของการแข่งขัน การแย่งลูกบอลได้หมายความถึงผู้เล่นทีมนั้นมีโอกาสพาลูกบอลขึ้นทำประตูฝ่ายตรงข้ามได้ การแย่งลูกบอลได้ดีภายหลังจากอีกทีมหนึ่งยิงประตูไม่เป็นผลย่อมส่งปลายและสามารถทำให้ทีมนั้นได้รับชัยชนะ
                ผู้เล่นที่กระโดดสูงย่อมได้เปรียบต่อการแย่งลูกบอล แต่ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถเสริมให้การแย่งลูกบอลได้ดีขึ้นนั่นคือ ตำแหน่งการยืนและช่วงจังหวะการเข้าแย่งที่ดี รวมถึงการป้องกันมิให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าไปในพื้นที่ที่ลูกบอลจะไปยังตำแหน่งนั้น

การกำบัง ( Screening )
ขอโทษรูปยังไม่ได้ Scan เป็นการป้องกันที่ถูกต้องโดยผู้เล่นฝ่ายรุกยืนด้านข้างหรือด้านหลังของฝ่ายป้องกัน เพื่อกันให้ผู้เล่นร่วมทีมที่ครอบครองบอลหลุดจากการป้องกันเพื่อส่งบอล, เลี้ยงบอลหรือยิงประตู
การกำบังต้องยืนบังตามทิศทางที่ฝ่ายป้องกันจะเคลื่อนที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เล่นที่ได้รับการกำบัง หากผู้เล่นที่เข้ากำบังที่ผิดตำแหน่งหรือผิดทิศทางประสิทธิภาพของการกำบังลดลงและอาจถูกฝ่ายป้องกันแย่งบอลไปได้ 

การกำบังแล้วหมุนตัวรับบอล ( Pick and Roll )
                เป็นวิธีการผสมผสานระหว่างผู้เล่นกำบังและผู้เล่นร่วมทีมที่ครอบครองบอล หลังจากผู้เล่นทำการกำบังแล้วให้หมุนตัวเพื่อเตรียมรับบอลจากการส่งบอลของเพื่อนร่วมทีม หากสามารถยืนตำแหน่งและกระทำได้ดีการขึ้นทำประตูสามารถกระทำได้โดยง่าย
                การกำบังชนิดนี้ใช้มากเมื่อผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามป้องกันลักษณะ man-to-man

การป้องกัน ( Defence )
                การป้องกันที่ดีต้องมีพื้นฐานการเคลื่อนที่ของเท้า ( Foot-work ) ที่ดี ผู้เล่นฝ่ายป้องกันจะต้องคาดคะเนว่าฝ่ายรุกจะก้าวเท้าหรือเคลื่อนที่ไปทิศทางใด เพื่อหาตำแหน่งหารขืนป้องกันได้ถูกต้องและไม่ทำให้เกิดการละเมิดกติกา

การป้องกันแบบตัวต่อตัว ( Man-to-Man Defence )
กีฬาบาสเกตบอลนิยมใช้การป้องกันแบบตัวต่อตัว ( man-to-man ) บ่อยครั้งมาก การป้องกันลักษณะนี้เป็นการประกบผู้เล่นรายบุคคล ผู้เล่นฝ่ายป้องกันทุกคนต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เนื่องจากหากผู้เล่นฝ่ายป้องกันคนใดพลาด ฝ่ายตรงข้ามสามารถหลุดขึ้นทำประตูได้อย่างง่ายดาย ฝ่ายตรงข้ามสามารถใช้การกำบังแล้วหมุนรับบอลทำให้ยากต่อการป้องกัน ใน NBA กำหนดให้ใช้การป้องกันแบบ man-to-man เท่านั้น 

การป้องกันแบบรักษาพื้นที่ (Zone Defence)
เป็นการป้องกันพื้นที่รอบห่วงประตู ผู้เล่นฝ่ายป้องกันไม่ต้องเคลื่อนที่ตามผู้เล่นฝ่ายรุก แต่ยังคงรักษาพื้นที่และทิศทางที่ลูกบอลอาจมายังพื้นที่ของตนเอง ใช้มากสำหรับผู้เล่นฝ่ายป้องกันที่มีรูปร่างสูงแต่ไม่มีความเร็วเท่ากับฝ่ายตรงข้ามการป้องกันลักษณะนี้ไม่อาจใช้การกำบังแล้วหมุนตัวรับบอลได้เนื่องจากผู้เล่นฝ่ายป้องกันไม่ใส่ใจผู้เล่นที่ไม่มีบอลนั่นเอง

ตำแหน่งของผู้เล่น (Position of Players)
ตำแหน่งการ์ด (Guard)
                เป็นตำแหน่งที่ช่วยทำเกมของทีม โดยปกติมักเป็นผู้เล่นที่มีความคล่องแคล่วที่สุดในทีมและบ่อยครั้งมักเป็นผู้เล่นที่มีรูปร่างสูง มักไม่ค่อยเข้าใกล้หว่งประตูแต่จะยิงประตูระยะไกล และช่วยทำเกมให้เพื่อนร่วมทีมด้วยการส่งบอล เป็นผู้เล่นที่คอยทำลายเกมการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามด้วยสมองจากการส่ง,เลี้ยงหรือยิงประตู
ปีก (Forward)
                เป็นตำแหน่งที่มีความสามารถยิงประตูระยะกลาง , ไกลและเลี้ยงบอลขึ้นทำประตูได้ดี
เซ็นเตอร์ (Centre)
                เป็นตำแหน่งที่มีความสูงที่สุดของทีม คะแนนโดยมากมักเกิดจากผู้เล่นตำแหน่งนี้ เนื่องจากยืนตำแหน่งใกล้ห่วงประตูฝ่ายตรงข้ามมากที่สุด เป็นผู้เล่นที่ต้องทำงานหนักเพื่อที่จะแย่งบอลจากการยิงประตูที่ไม่เป็นผลกลับคืน


ทักษะพื้นฐาน
ทักษะต่างๆเกี่ยวกับการฝึกฝนบาสเกตบอลเบื้องต้น

วอร์มอัพ
เราวอร์มอัพเพื่อให้ร่างกายได้เตรียมพร้อมก่อนการเล่นบาสทุกครั้ง และลดการบาดเจ็บที่เกิดจากการเล่นได้ โดยส่วนมาก
แล้วนักบาส ไม่ค่อยชอบที่จะวอร์มอัพสักเท่าไร ทำให้บาดเจ็บมากหรือเล่นได้ไม่ค่อยดีในตอนลงเล่นทีม












การเลี้ยงบอล
การเลี้ยงบอล จำเป็นต้องฝึกฝนกันในแต่ละท่าแยกกันไป เนื่องจากท่าเลี้ยงแต่ละท่าใช้กล้ามเนื้อคนละส่วนกัน ต้องฝึกฝนจนร่างกายเกิดความเคยชิน จนสามารถใช้หลบหลีกฝ่ายป้องกันได้
มาดูการซ้อมเลี้ยงเรียกน้ำย่อยกันดีกว่า ฝึกก่อนลงสนามสัก2นาทีช่วย
ให้เราเลี้ยงบอลได้ดีขึ้นนะครับ
ฝึกเอาบอลอ้อมตัว พยายามจับบอลให้มั่นหมุนบอลวนไปทางซ้ายและ ขวาสลับกัน หมุนช้าๆก่อนเป็นวงกว้าง แล้วค่อยเพิ่มความเร็วในการหมุน ท่านี้จะช่วยให้เราจับบอล ได้ดีขึ้นในขณะที่เลี้ยงบอลหรือส่งบอล
ฝึกเอาบอลอ้อมหัว พยายามจับบอลให้มั่นหมุนบอลวนไปทางซ้ายและ ขวาสลับกัน หมุนช้าๆก่อนเป็นวงกว้าง แล้วค่อยเพิ่มความเร็วในการหมุน
เลี้ยงบอลแบบพื้นฐาน เลี้ยงมือซ้ายละมือขวาให้คล่อง โดยใช้ปลายนิ้ว เคาะบอลลงไปนะครับ อย่าใช้ฝ่ามือกดบอลลงไปฝึกทั้งมือซ้ายและขวาจนคล่อง
เลี้ยงบอลด้านขวาต่อตัวต่ำนะครับ และเอามือซ้ายยกขึ้นมาในลักษณะ ป้องกันบอลจากฝ่ายตรงข้าม ถ้าใช้มือซ้ายเลี้ยงก็ยกมือขวากันบอลไว้
ซ้อมมือซ้ายโดยการยืนขาคู่อยู่ที่จุดๆเดียวห้ามเคลื่อนไหว แล้วย่อตัวลง พร้อมกับเลี้ยงบาสช้าๆก่อน แล้วค่อยเริ่มค่อยๆเพิ่มความเร็วในการเคาะพยายามอย่าหันไปมองบอลนะครับ ตามองข้างหน้าไว้
เลี้ยงบอลลอดระหว่างขา เริ่มจากฝึกส่งบอลลอดระหว่างขาพร้อมกับ ก้าวขาไปข้างหน้าและข้างหลัง ให้คล่อง เมื่อคล่องแล้วทำเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากส่งบอลเป็นเคาะบอล
ครอสโอเวอร์ เป็นท่าใช้สำหรับเปลี่ยนการเคาะบอลจากมือซ้ายไปมือขวา
ปืนกล<machine gun> ท่าเลี้ยงรัวสองมือ ฝึกไว้เพื่อเพิ่มความคล่องในการ เลี้ยงบอล ใช้ปลายนิ้วเคาะบอลให้ต่ำและเร็ว
ฝึกส่งบอลอ้อมขาให้เกิดความเคยชิน พยายามย่อตัวลงให้ต่ำ ส่งบอลวนขวาสลับบอลวนซ้าย ให้คล่อง
เคาะบอลอ้อมขาทั้งสองข้าง เริ่มจากสูงก่อน แล้วค่อยเคาะบอลให้ต่ำ อย่าลืมใช้ปลายนิ้วบังคับทิศทางบอลนะครับ อย่าใช้ฝ่ามือเคาะบอล
เคาะบอลลอดหว่างขาพยายามย่อตัวให้ต่ำจะเกิดช่องว่างระหว่างขา เยอะทำให้เคาะบอลลอดหว่างขา ได้ง่าย
สองมือโยนบอลลอดหว่างขา ฝึกความเคยชินให้ในการรับบอล ให้ร่าง กายได้ปรับระยะรับบอลด้านหลังถ้าวอร์มอัพมาจะช่วยให้เราขยับร่างกาย เพื่อรับบอลได้ง่ายขึ้น
เคาะบอลไปมาเป็นรูปตัว V ท่านี้จะช่วยได้มากในการเลี้ยงเพื่อเปลี่ยนทิศทางบอล หรือเพื่อหลอกฝ่ายตรงข้าม เคาะบอลช้าๆแล้วค่อยๆเพิ่ม ความเร็วในการเคาะบอล
ฝึกท่านี้ช่วยให้ร่างกายได้เคยชินกับการก้มเลี้ยงบอล เพิ่มความเร็วในการ
ขยับตัวเพื่อไปรับบอล ทำให้เลี้ยงบอลลอดระหว่างขาได้เร็วขึ้น
ฝึกแยกประสาทสัมผัสในการเคาะบอล เพื่อให้สามารถเลี้ยงบอลทั้ง มือซ้ายและมือขวาได้คล่องมากยิ่งขึ้น เริ่มจากยื่นเคาะอยู่กับที่พร้อมกันทั้งมือซ้ายและขวา หลังจากนั้นก็เคาะบอลมือซ้ายและมือขวาสลับกัน เมื่อคล่องแล้วก็ขยับเดินหน้าถอยหลัง เริ่มจากช้าๆก่อนนะครับ
ท่าสไปเดอร์ เป็นการเคาะบอลสลับซ้ายขวาโดยการฝึกเคาะครั้งแรกจะเริ่ม จาก เคาะบอลซ้ายขวาด้านหน้าก่อนแล้วค่อยสลับไปเคาะบอลซ้ายขวาข้างหลัง ท่า นี้ต้องอาศัยความรวดเร็วในการเคาะบอล
เลี้ยงหลบสิ่งกีดขวางโดยการ crossover ซ้ายขวาอย่างรวดเร็ว
การฝึกเลี้ยงบอลแบบต่างๆเพื่อเพิ่มความคล่องในการเลี้ยงบอล
การเลี้ยงบอลสองมือ โดยใช้มือแต่ละข้างเคาะบอลแบบ รัว แล้วสลับมือ เคาะบอลระหว่างบอลที่อยู่ข้างหน้า
เลี้ยงบอลสองมือ


การส่งบอล
การจ่ายบอลหรือการส่งบอล มีความสำคัญต่อการลื่นไหลและความต่อเนื่องของเกมการแข่งขัน โดยเฉพาะถ้าทีมที่ลงเล่น สามารถจ่ายบอลกันอย่างเข้าขาแล้ว จะทำให้ทีมบุกมีประสิทธิภาพมาก
การส่งบอลระดับหน้าอก เป็นการส่งบอลโดยให้ฝ่ามืองายออกจากตัว แล้วปล่อยบอล โดยนิ้วของมือทั้งสองข้างส่งบอลออกไป ก้าวขาเพื่อส่งแรงไปที่มือ จะสามารถส่ง บอลไปได้เร็วและแรงมาขึ้น
ส่งบอลข้ามศีรษะ ขณะส่งบอลออกจากมือ ให้ก้าวขาเพื่อส่งแรงไปที่มือ จะสามารถส่ง บอลไปได้เร็วและแรงมาขึ้น
เป็นการส่งบอลโดยพยายามยืนในตำแหน่งที่สามารถส่งผ่านผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม
ที่ประกบเรา อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการหมุนตัวเพื่อส่ง หรือจะเป็นการก้าวข้ามมายังด้านข้าง ของฝ่ายตรงข้าม
การจ่ายบอลในจังหวะที่เราเลี้ยงบอลเข้าไปที่ห่วงแต่มีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามป้องกันเราไว้ ทำ ให้เราเล่นบอลยาก แต่เพื่อนในทีม วิ่งตามหลังมาและอยู่ในตำแหน่งที่สามารถทำแต้มได้ เราก็ส่งบอลกลับไปข้างหลังโดยการโยนบอลลอดระหว่างขา
ส่งบอลผ่านผู้เล่นที่ประกบเรา หรือประกบเพื่อนร่วมทีมอยู่ โดยยืนป้องกันอยู่ระหว่างเส้น ทางที่เราจะส่งบอล จำเป็นที่จะต้องก้าวออกมาเพื่อหาช่องว่างในการส่ง
การส่งบอล ต้องส่งแรงออกจากปลายนิ้วออกไปในลักษณะมือหงายออกด้านนอก
ของลำตัว โดยส่งบอลผ่านผู้เล่น ที่ประกบเพื่อนร่วมทีมอยู่ โดยยืนป้องกันอยู่ระหว่างเส้น ทางที่เราจะส่งบอล จำเป็นที่จะต้องก้าวออกมาเพื่อหาช่องว่างในการส่ง

การทำแต้ม
การชู๊ต
เทคนิคการส่งบาสนั้นก็สำคัญไม่น้อย เพราะถ้าผู้เล่นสามารถจ่ายให้เพื่อนในทีมได้ดี ก็สามารถ ทำให้เกมลื่นไหล สามารถ บุกทำแต้มได้มากขึ้น
ลักษณะการจับบอลขณะที่จะชู๊ตบอล ใช้นิ้วประคองบอล ให้มีช่องว่างกลางฝ่ามือ นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ทำมุมกันเกือบจะตั้งฉาก กางนิ้วมือออก
ขั้นตอนของการเตรียมท่าชู๊ตนั้น ปลายเท้าและลำตัวต้องตรงไปที่ห่วง ส่วนมือขวากาง ออกแล้ววางไปที่บอล เมื่อย่อตัวลงพร้อมงอข้อศอกเก็บไว้ข้างลำตัว ในท่าเตรียมชู๊ต เมื่อ ยกบอลในท่าชู๊ตนั้น ยกบอลเป็นเส้นตรงจากล่างขึ้นบน ส่งแรงจากขาที่ยืดตัวขึ้นแล้วส่ง แรงต่อไปยังแขน และศอกยังคงตรงกับห่วงอยู่ ในขณะปล่อยบอลจากปลายนิ้ว
การยืนปลายเท้าและลำตัวต้องหันไปหาห่วง เมื่อยกบอลในท่าเตรียมยิงศอกจะต้อง หันตรง ไปหาห่วง และกางออกไม่น้อยกว่า40องศา เมื่อปล่อยบอลออกจากนิ้ว ให้ปล่อย จนสุดปลายนิ้วในลักษณะที่ปลายนิ้วชี้ไปที่ห่วง แขนเหยียดออกไม่ถึงกับตึงมากสบายๆ ถ้าเราปล่อย บอลออกจากปลายนิ้ว บอลจะหมุนวนกลับมาหาเรา เรียกว่า follow
เหมือนกับท่ายืนยิงธรรมดา แต่ว่าจะแตกต่างในส่วนของการถ่ายแรง คือย่อตัวตั้ง
บอลระดับอก เมื่อเริ่มกระโดดก็ให้ส่งแรงขึ้นไปที่หัวไหลและแขนขณะที่กระโดด ขึ้นไปนั้นก็ชู๊ตบอลออกจากมือ

เลอัพ
การเลอัพ ก็คือการกระโดดขึ้นไปปล่อยบอลที่ห่วงหรือแป้นบาสเพื่อให้ลูกบาสลงห่วง เริ่ม จากการการเลี้ยงบอลไปที่ห่วง แล้วกระโดดเมื่อกระโดดเข้าใกล้แป้นหรือห่วงก็ปล่อยบอล ในลักษณะหงายมือ โดยส่วนมากแล้วจะปล่อยบอลให้กระทบแป้นเพื่อง่ายต่อการทำแต้ม
เทคนิคการฝึกเลอัพ ให้ก้าวขาสองเก้าแล้วกระโดด ในท่างอเข่าเมื่อลงพื้นแล้วให้กระโดด ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ
ยัดห่วง
การทำแต้มคล้ายกับการ เลอัพ ต่างกันตรงที่เมื่อกระโดดไปแล้วเอาบอลยัด ลงไปในห่วง แทนการวางบอลที่แป้นเหมือนเลอัพ

การรีบาวด์
เการรีบาวด์คือการเก็บบอลที่พลาดจากการทำแต้ม รีบาวด์มีส่วนสำคัญเพี่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเก็บ บอลทำแต้มอีกครั้งจากบอลที่พลาดไป และยังสมารถบุกสวนกลับทันทีได้อีกด้วย
การเข้าตำแหน่งที่ดีเพื่อ รีบาวด์ ในบางครั้งที่เราทำแต้ม หรือยืนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่สามารถ เข้าไปรีบาวด์ได้ ก็ให้หมุนตัว หลบการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามเพื่อเข้าไปอยู่ในตำแหน่ง ที่สามารถ รีบาวด์ได้สะดวก
การอ่านทางบอลเมื่อฝ่ายตรงข้ามชู๊ตทำแต้ม ในลักษณะของการชู๊ต เมื่อบอลออกจากมือ ฝ่ายตรงข้ามแล้วให้เอาลำตัวบังฝ่ายตรงข้ามไม่ให้สามารถเข้าไปรีบาวด์ แต่ก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะชู๊ต ให้สังเกต การทำแต้ม ถ้าอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถยืนทำแต้ม ในท่าที่พร้อมได้แล้ว ไม่ว่าจะยืนเอียงซ้าย ขวา ตั้งบอลเบี้ยว ให้เตรียมตัวรีบาวด์ได้เลย
ตำแหน่งของการยืน รีบาวด์ ต้องยืนป้องกันฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เข้ามาเอาบอล หลังจากนั้นก็ ยินกะตำแหน่งห่างจากห่วงในระยะป้องกันฝ่ายตรงข้ามวิ่งเข้ามาทำแต้มเลอัพ เมือฝ่ายตรงข้ามตัดสินใจยิงก็รอให้บอลตกกระทบปากห่วง เมื่อทราบว่าบอลตกในระยะที่ เราสามารถเข้าไปเก็บบอลได้ ก็ใ้ห้ก้าวกระโดดเข้าไปเอาบอล
การฝึกรีบาวด์ ป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามรับบอล และต้องฝึกเข้าตำแหน่งรับบอลเมื่อถูก ป้องกันไม่ให้ รีบาวด์ด้วย
ฝึกรีบาวด์ในขณะที่เป็นฝ่ายบุก เป็นการฝึกกระโดดรับบอลที่กระทบแป้น แล้วกระโดดทำ แต้มในทันที
การตั้งรับ การป้องกัน
เทคนิคการป้องกันโดยส่วนมากแล้ว หลายๆคนมักจะมองข้ามที่จะฝึกฝนในส่วนนี้ไปแต่แท้ที่จริงแล้ว หัวใจของการเล่นบาสคือ การป้องกันที่ดี เรามาเรียนรู้กันก่อนว่า การป้องกันทำกันอย่างไรบ้าง
ฝึกการป้องกันแบบ ตัวต่อตัว
เมื่อเราต้องป้องกันผู้เล่นที่ไม่มีบอล ต้องป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามส่งบอลมาให้คนที่เรา ประกบอยู่ได้ พยายามใช้หางตามองผู้เล่นที่เราประกบ กับคนที่ถือบอล แต่เมื่อเราประกบ คนที่ถือบอล ให้ใช้มือป้องกันผู้เล่น โดยใช้มือทั้งสองข้างกางออก ถ้าฝ่ายตรงข้ามถือ บอลทางไหน ให้เราเอามือนั้นตบบอลจากด้านล่าง อีกมือที่ว่างอยู่กันการส่งบอล
เมื่อฝ่ายตรงข้ามบุกมา จำเป็นต้องสลับขาป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามก้าวข้ามตัวเราไปได้ ถ้าฝ่ายตรงข้ามเลี้ยงบอลด้านไหนก็ให้ถอยขานั้นลงต่ำเพื่อพร้อมจะสไลดฺ์ตาม พยายามย่อ เอาไว้เพื่อการเคลื่อนที่จะได้เร็ว
การสไลด์ปิดไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามทำแต้มได้ เมื่อฝ่ายตรงข้ามเลี้ยงบอลให้ย่อขาตั้งรับ เมื่อ ฝ่ายตรงข้าม ยกบอลชู๊ต ให้ยืดตัวพร้อมยกมือบังห่วงป้องกันการชู๊ต
เมื่อคู่ต่อสู้บุกเข้ามา ให้สไลด์ตัวไปข้างๆป้องกันใม่ให้คู่ต่อสู้เข้ามาได้
ฝึกการป้องกัน
การป้องกันเมื่อคู่ต่อสู้โพส ขอบอลพยายามอย่าให้คู่ต่อสู้รับบอล โดยการยกมือป้องกัน การส่งบอลข้ามศีรษะ
การฝึกการก้าวตัวในการป้องกัน เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น
การฝึกสไลด์ไปด้านข้าง ท่านี้จำเป็นมาเพราะเป็นพื้นฐานของการเคลื่อนไหวเพื่อป้องกัน ฝ่ายตรงข้าม ให้ใช้มือทั้งสองข้างไขว้หลังไว แล้วเริ่มสไลด์ ป้องกันฝ่ายตรงข้ามใ้ห้ออก ไปที่เส้นขอบสนามเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามจนมุม
ยิ่งการแข่งขันระดับสูงขึ้นไป ยิ่งมีผู้เล่นเก่งๆเสมอ การที่จะป้องกันฝ่ายตรงข้ามที่ เลี้ยงบอลคล่อง จำเป็นต้องฝึกสไลด์แบบ ซิกแซก เริ่มจากช้าๆก่อน แล้วค่อยเพิ่มความ เร็วขึ้น
เราเปรียบเทียบถังขยะเป็นผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม เมื่อคนที่เราประกบ รับบอล เราก็เข้าไปป้อง กันในท่าพร้อมป้องกัน แต่เมื่อคนที่เราประกบจ่ายบอลไปแล้ว เราก็ถอยมายืนป้องกันในตำแหน่งเดิมของเรา เมื่อผู้เล่นเราได้บอลอีกครั้งก็เข้าป้องกัน แต่เมื่อผู้เล่นเราเคลื่อนทีไปยัง ถังขยะอีกใบ เราก็ตามไปประกบพยายามอย่าให้ฝ่ายตรงข้ามผ่านเราไปได้
การป้องกันแบบทีม เป็น zone
การสกรีน
เทคนิคการสกรีนโดยส่วนมากแล้ว จะอยู่ที่การอ่านการเคลื่อนไหวของทีม และสังเกตฝ่ายตรงข้ามเป็นหลัก เราสามารถ สกรีนฝ่ายตรงข้ามเพื่อช่วยให้เพื่อนที่เป็นตัวชู๊ตแม่นๆ ให้สามารถชู๊ตได้สบายๆ โอกาสเกิดแต้ม ก็มีสูงตามไปด้วย
การป้องกันฝ่ายตรงข้ามไม่ให้สามารถเข้าไปประกบผู้เล่นที่กำลังจะเล่นบอล โดยการยืนหัน หน้าในลักษณะป้องกันตัวไม่ให้บาดเจ็บจากการถูกกระแทก ขวางผู้เล่นที่วิ่งประกบเพื่อนเรา
การฝึกสกรีน อย่าลืมที่จะป้องกันตัวเอง แต่อย่ากางแขนออกมากไป จะทำให้ฟาวด์ได้ พยายามขยับเข้าจุดป้องกันให้ไว ก่อนที่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะวิ่งมาถึง เดี๋ยวจะเข้าไปชน กันเสียฟาวด์อีก และผู้เล่นที่เลี้ยงบอลก็ฝึกวิ่งเข้าจุดสกรีน เพื่อให้เพื่อสกรีนให้เรา
การเคลื่อนที่โดยไม่มีบอล ขณะที่เป็นฝ่ายบุก ถ้าเราเป็นตัวชู๊ต จะได้ประโยชน์มากจากการ สกรีน การเคลื่อนที่เข้าหาผู้เล่นที่พร้อม สกรีน แล้วรับบอลเพื่อทำแต้ม
การโพส
เทคนิคการโพส ส่วนมากแล้วจะใช้สำหรับผู้เล่นที่มีร่างกายใหญ่และแข็งแรง อย่างเซนเตอร์หรือผู้เล่นที่เข้า บุกเช่นการ์ด การโพสจะช่วยให้ผู้เล่นสามารถยืนรับบอลในตำแหน่งที่ต้องการทำแต้มได้
การโพสตอนแรกต้องหาจังหวะรับบอล หลังจากรับบอลได้แล้ว เราก็ต้องดูว่าผู้เล่นที่ ประกบเราอยู่ ยืนอย่างไร เราจะหาช่องว่างจากการเล่นได้ทางไหน หมุนทางซ้าย ขวา หรือ กระโดดยิง
การยืนเพื่อรับบอล ย่อตัวลง แล้วกอดบอลไว้ที่หน้าอก เราต้องป้องกันไม่ให้ฝ่าย ตรงข้ามเข้ามาปัดบอลจากมือเราได้ หลังจากนั้นก็ดูว่าฝ่ายตรงข้ามถลำตัวมาด้านไหน ถ้าฝ่ายตรงข้ามป้องกันไม่ดี มีช่องว่างให้เราก้าวข้ามเข้าหาแป้น ให้หมุนตัวเข้าหาแป้น พร้อมกับก้าวขาให้กว้าง และเคาะบอลก่อนที่จะยืดตัวกระโดดขึ้นไปชู๊ต
การก้าวขาเพื่อให้ได้เปรียบในการรับบอล ให้ก้าวขาปิดทางป้องกันของฝ่ายตรงข้าม อย่า ให้ผู้เล่นสามารถป้องกันเราได้ โดยการก้าวขาออกไปให้กว้าง อย่าให้ฝ่ายป้องกัน ก้าวขา ออกมาปิดทางรับบอลเราได้ เมื่อเกิดช่องว่างให้รับบอลแล้วก้าวให้ยาวเข้าหาแป้น พยายามก้าวให้เร็ว และยาวขณะที่เคลื่อนไหวหาช่องว่าง อย่าลืมย่อตัวให้ต่ำ
การรับบอลและถือบอลให้แน่น ใช้ลำตัวเราป้องกันบอลจากฝ่ายป้องกัน หลังจากนั้น เรา อาจลองขยับตัวเพื่อหลอกล่อฝ่ายตรงข้าม ก่อนที่เราจะหมุนตัวอย่างรวดเร็วเพื่อทำแต้ม
การโพสแล้วจะต้องเล่นบอลในทิศทางที่ฝ่ายตรงข้ามป้องกันบอลจากการชู๊ตของเราไม่ได้ อย่าทิศทางการยืนของฝ่ายตรงข้าม ถ้าป้องกันมาทางขวา เราก็หมุนตัวไปยิงทางด้านซ้าย เช่นเดียวกัน ถ้าฝ่ายตรงข้าม ป้องกันมาทางซ้าย เราก็หมุนตัวกลับไปยิงทางด้านขวา
การฝึกเทคนิค
เทคนิคการเล่นบาสเกตบอล
crossover
เทคนิคการบุกเข้าทำแต้ม แบบ crossover ผู้เล่นต้องมีความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ การบุกแบบนี้ สามารถใช้ในขณะที่เรากำลังเลี้ยงบอลอยู่หรือ โพสอยู่ก็ได้
การเคลื่อนที่แบบcrossover มีเทคนิคอยู่ที่ การประคองบอลให้ห่างจากลำตัว แล้วเคาะบอล ไปยังอีกมือหนึ่งให้เร็ว โดยใช้หัวไหล่ช่วยบิดเข้ามา หลังจากนั้นก็วิ่งพร้อมกับเลี้ยงบอลไป ข้างหน้าแล้ววิ่งตรงไป รักษาสมดุลของร่างกาย อย่าโยกตัวไปมาตามบอลที่เราเลี้ยง เพราะจะทำให้เราช้าเมื่อต้องการจะผ่านฝ่ายป้องกัน
เป็นการหลอกคู่ต่อสู้ ให้เลี้ยงบอลให้ห่างจากตัว อย่างไม่เร็วมาก เพื่อให้ฝ่ายป้องกัน เข้ามาแย่งบอล เมื่อเราเห็นฝ่ายตรงข้ามเข้ามาแย่งบอล ให้เคาะบอล crossover มายังอีกมือหนึ่ง แล้ววิ่งตรงไปทำแต้ม
ท่านี้จะทำcrossover สองครั้งติดต่อกัน เพื่อหลอกล่อฝ่ายตรงข้าม แล้วจึงวิ่งผ่านไป อย่าลืมที่จะรักษาสมดุลของร่างกาย อย่าให้โยกซ้ายเอียงขวา ขณะที่วิ่งข้ามฝ่ายป้องกัน จำเป็นที่จะต้องก้าวให้ยาว เพื่อให้ฝ่ายป้องกันไม่สามารถตามเราได้ทัน
มาดูกันว่า ถ้าเอา crossover ไปใช้ในการเล่นแล้วจะเป็นยังไงกัน

spin move
เทคนิคการหมุนตัวแบบ สปินมูฟ <spin move> ช่วยในการหลบหลีกฝ่ายตรงข้ามขณะเลี้ยงบอลอยู่
เทคนิคการหมุนตัว เลี้ยงบอลมือขวาในขณะที่บอลกำลังลอยตัวขึ้นมา ให้เอามือไปรับ บอลในลักษณะ ประคองบอลโดยให้ฝ่ามือคว่ำอยุ่ แล้วประคองบอลพร้อมกับหมุนตัวไป อีกด้าน
การวอร์มอัพ เลี้ยงบอลแล้ว spin move ไปด้วย เริ่มจากช้าๆก่อน แล้วค่อยเพิ่มความเร็ว
เอาบอลลอดระหว่างขาก่อนที่จะ spin move สามารถเอามาใช้กับการหลบฝ่ายตรงข้ามเพื่อ ทำแต้มจากการ เลอัพได้

มาดูกันว่าspin move ใช้ในการแข่งแล้วออกมาเป็นอย่างไร
Fade Away
การเล่นแบบ fade alway ผู้เล่นจะต้องฝึกกระโดดชู๊ตให้แม่นก่อน ยิ่งกระโดดชู๊ตได้ดีเท่าไร fade alway ก็ยิ่งได้ผลมากตามไปด้วย
การหมุนตัวแล้วกระโดดถอยไปข้างหลังเล็กน้อยก่อนที่จะชู๊ตบอล ออกไป เทคนิคคือ เมื่อเรา โพสท่ายืนในตำแหน่งที่ต้องการได้แล้ว ให้หมุนตัวพร้อมกับยกบอลให้ สูงระดับหน้าอก แล้วก้าวขาออกมาด้านหน้า เพื่อเพิ่มระยะถอยห่างออกจากผู้เล่นฝ่ายป้อง กัน หมุนให้หน้ากลับไปหาแป้น หลังจากนั้นก็กระโดดพร้อมกับชู๊ตบอลออกไป
กระโดด fade away โดยการกระโดด ยกบอลให้สูง ลำตัวเอียงไปด้านหลังเล็กน้อย แล้วชู๊ต
โคบี้ ไบรอัน กระโดด fade away ทำแต้ม ในเกมการแข่งขัน
Triple Threat
การยืนในท่า Triple Threat คือท่ายืนหลังจากรับบอลมาแล้ว เราสามารถ หลอกล่อก่อนที่จะยิงหรือวิ่งหลบ เข้าไปเลอัพได้ ถ้ามีทักษะในการหลอกล่อที่ดี ใช้ได้ดีกับตำแหน่งการ์ดตัวบุก
การยืนหลังจากรับบอล Triple Threat สามารถส่ง ชู๊ต หรือวิ่งผ่านฝ่ายตรงข้ามไปทำแต้ม
การเข้าเล่นในทีมขณะที่ไม่มีบอลจนไปถึงรับบอลอยู่ในท่า Triple Threat และเล่นบอลทำแต้ม
ลักษณะของท่าTriple Threat ต้องยืนให้สมดุลเพื่อที่จะหลอกล่อ หรือส่งบอล ได้ตลอด เวลา และต้องย่อตัว ขณะที่เราจะวิ่งผ่านฝ่ายตรงข้าม ต้องหลอกและย่อตัวให้ต่ำ และถ้าต้องก้าวขาหมุนตัว ต้องให้ต่ำกว่าเดิมเพื่อจะได้ผ่านฝ่ายตรงข้ามไปได้
เราสามารถใช้เท้าหลอก ก่อนที่จะผ่านฝ่ายตรงข้ามเข้าไปทำแต้ม

เคลื่อนไหวเล่นอันเป็นเอกลักษณ์
การเข้าทำแต้มในแบบของนักกีฬาแต่ละคนอันเป็นเอกลักษณ์ หลังจากที่ฝึกฝนจนเคยชินแล้ว
Nike Signature Moves
หลังจากที่สามารถฝึกทักษะพื้นฐานจนคล่องแคล่วว่องไวแล้ว ก็มาดูการทำแต้ม หรือสไตลฺ์การเล่นของนัก บาสเก่งๆ กันว่าเค้ามีรูปแบบการทำแต้มอย่างไรก้นบ้าง

Manu Ginobili's

Euro step ขณะที่เราเลี้ยงบอลอยู่นั้น เพื่อนเราก็เข้ามาสกรีนผู้เล่นที่ประกบเราอยู่ ทำให้เรา เลี้ยงบอลอ้อมไปข้างหลังเพื่อนเราได้ เมื่อเราเลี้ยงบอลหลุดมาได้แล้วก็จะมาเจอฝ่ายป้อง กันอีกคนที่ยืนรอเราอยู่ ให้เราวิ่งเข้าไปที่ผู้เล่น แล้วใช้ Euro step ก้าวเข้าหาแป้น แล้วชู๊ต
Behind the Back Drive ท่านี้เริ่มจาก สร้างช่องว่างให้เราสามารถรับบอลจากเพื่อน ร่วมทีมให้ได้ก่อน เมื่อรับได้แล้วก็เลี้ยงบอลหลอกไปทางซ้าย เมื่อฝ่ายป้องกันตามเราไป ทางซ้าย เราก็เลี้ยงบอลไขว้หลังกลับไปทางขวา และวางบอลที่แป้น
Pump Fake ท่านี้จะต่อจากท่า Behind the Back Drive แต่แทนที่เราจะวิ่งเข้าไปหาแป้น เราก็ ถอยออกมาตั้งท่าหลอกชู๊ต เมื่อฝ่ายตรงข้ามเข้ามาประกบเรา เราก็กระโดดชู๊ต
ท่านี้จะคล้ายกับท่าPump Fake แต่แทนที่เราจะหลอกชู๊ต เราก็เปลี่ยนมาเป็นการก้าวยาวๆ ถอยมาในจุดที่ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถวิ่งเข้ามาป้องกันเราได้ทัน แล้วกระโดดชู๊ต

Lebron James

Crossover เริ่มจากถอยตั้งหลักกันก่อน พอให้มีเนื้อที่เลี้ยงบอล ต่อจากนั้นก็หลอกว่าจะไป ทางซ้าย แล้วเลี้ยงบอล Crossover มาทางมือขวา เมื่อหลุดมาได้แล้วก็วิ่งเข้าไปดั๊ง
Drawing the Double Team โพสขอบอลจากเพื่อนร่วมทีม ต่อจากนั้นก็หันมาดูฝ่ายตรงข้าม ว่าปิดเราอยู่ป่าว เราจะเล่นบอลยังไงดี แต่ถ้าเราเห็นว่าขณะที่ยืนโพสหล่ออยู่นั้น มีคนเข้า มาประกบถึง2คน และเห็นเพื่อนเรายืนหล่ออยู่เหมือนกัน ก็ถอยมาเพื่อหาที่ว่างสำหรับส่ง บอลให้เพื่อน
Dunk in the Post โพสขอบอลจากเพื่อนร่วมทีม ต่อจากนั้นก็หันมาดูฝ่ายตรงข้าม ว่าปิดเราอยู่ป่าว หลอกดูซักทีถ้าฝ่ายตรงข้ามเจอหลอก ก็เลี้ยงผ่านช่องว่างเข้าไปดั๊งเลย
Fadeaway Jumper โพสขอบอลจากเพื่อนร่วมทีม ต่อจากนั้นก็หันมาดูฝ่ายตรงข้าม ว่าปิดเราอยู่ป่าว เราจะเล่นบอลยังไงดี เราเห็นว่าเข้าไปเล่นใต้แป้นไม่ได้ ก็เลี้ยงบอลหลอก ว่าจะเลี้ยงบอลไปใต้แป้น ก้มให้ต่ำ แต่เราถอยตัวออกมาเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามป้องกันไม่ได้ แล้วกระโดดชู๊ต
Jason Kid

Fake & Finish เลี้ยงบอลเข้าหาฝ่ายตรงข้าม หลอกคู่ต่อสู้ด้วยการเลี้ยงบอลเข้าหาตัวแล้ว เคาะออกไปด้านข้าง ผ่านฝ่ายตรงข้ามมาเจอคนที่สอง เราก็หลอกแกล้งทำเป็นส่งให้เพื่อน ร่วมทีม แล้วก็ เลอัพเอง
Behind the Back Pass เลี้ยงบอลเข้าหาฝ่ายตรงข้าม หลอกคู่ต่อสู้ด้วยการเลี้ยง บอลเข้าหาตัวแล้ว เคาะออกไปด้านข้าง ผ่านฝ่ายตรงข้ามมาเจอคนที่สองเราก็ส่งบอล ผ่านด้านหลังของเราไปให้เพื่อนโดยไม่มอง ให้เพื่อนดั๊งทำแต้ม
No-Look Pass เลี้ยงบอลเข้าหาฝ่ายตรงข้าม หลอกคู่ต่อสู้ด้วยการเลี้ยงบอลเข้าหาตัวแล้ว เคาะออกไปด้านข้าง ผ่านฝ่ายตรงข้ามมาเจอคนที่สอง เราก็ผ่านบอลให้เพื่อนที่อยู่ด้าน ข้างแบบไม่มอง เพื่อนที่ว่างอยู่ก็ทำการชู๊ตทำแต้ม
Pass Off The Glass ขณะที่ทำการบุกสวนกลับ เมื่อเราวิ่งไปที่ห่วงด้วยความเร็ว ขณะรับบอล และคาดว่าจะทำแต้มลำบาก แต่เพื่อนที่ตามมาสามารถทำแต้มได้ง่ายกว่า จึงทำการเลอัพ บอลไปที่แป้นเพื่อให้เพื่อนที่ตามมาทำแต้ม
Kobe Bryant
Outside Jumper ยืนท่า Triple Threat หลอกคู่ต่อสู้ แล้วกระโดดชู๊ต
Pump Fake and Pivot สร้างช่องว่างเพื่อรับบอล เมื่อรับบอลได้แล้วยืนท่า Triple Threat หลอกฝ่ายตรงข้าม เมื่อคู่ต่อสู้เจอหลอกก็เลี้ยงบอลไปที่จุดชู๊ต ชู๊ตหลอก เมื่อผู้เล่นที่ตามมาประกบปิดเราไม่ให้เรากระโดดชู๊ต เราก็เปลี่ยนมาหมุนตัวกลับหลัง แล้วก้าวกระโดดชู๊ต
Reverse Layup สร้างช่องว่างเพื่อรับบอล เมื่อรับบอลได้แล้วยืนท่า Triple Threat แล้วหลอก ฝ่ายตรงข้าม หลังจากที่ฝ่ายตรงข้ามขยับ เราก็เลี้ยงบอลเข้าไป เลอัพ รีเวิสใต้แป้น
Pull-Up Jumper สร้างช่องว่างเพื่อรับบอล เมื่อรับบอลได้แล้วยืนท่า Triple Threat หลอกฝ่ายตรงข้าม เมื่อคู่ต่อสู้เจอหลอกก็เลี้ยงบอลไปที่จุดชู๊ต แล้วกระโดดชู๊ตทันที

อ้างอิง














ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น